Business Plus Material Requirement Planning (MRP II)


      งานผลิตจบกระบวนการอย่างสมบูรณ์ภายใต้ Business Plus ERP และ Business Plus MRP II ในราคาคนไทย

หลายๆ ท่านกำลังพบปัญหาว่า โปรแกรม ERP ที่ใช้กับโปรแกรม MRP เป็นโปรแกรม 2 ยี่ห้อ ฝ่ายบัญชีต้องคีย์เอกสารซ้ำ เพื่อนำมาปิดบัญชี คำนวณต้นทุน หรือบางกิจการต้องการโปรแกรมช่วยงานการผลิตก็มักจะพบว่าเป็นโปรแกรมต่างประเทศราคาสูงมาก ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายๆ ลดการสูญเสียไม่ว่าจะเป็นการจัดการเกี่ยวกับการคำนวณหาวัตถุดิบที่ต้องใช้ เพื่อที่จะนำไปผลิตสินค้าสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูป ให้ได้ครบตามจำนวนที่ต้องการจาก Sale Order หรือจากสูตรการผลิต/สูตรแปรรูป (BOM) เพื่อออกเอกสารใบสั่งผลิต ทั้งยังคำนวณอัตโนมัติว่าควรจะสั่งซื้อวัตถุดิบชนิดใดบ้างที่ไม่เพียงพอ  ข้อมูลทั้งหมดเชื่อมโยงกับระบบบัญชีบริหารสำเร็จรูป Business Plus ERP ทำให้สามารถปิดบัญชีได้ทันที ลดขั้นตอนการทำงาน ลดเวลาทำงาน ได้ผลวิเคราะห์อย่างรวดเร็วเพื่อผู้บริหาร

ท่านพบปัญหาเหล่านี้หรือไม่

  • จำนวนวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูปมีปริมาณเพียงพอกับการผลิต และความต้องการซื้อของลูกค้าหรือไม่?
  • ต้องใช้วัตถุดิบอะไร / จำนวนเท่าไหร่ ในการผลิต?
  • วัตถุดิบเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่?
  • ผลิตสินค้าไม่ทันความต้องการลูกค้าเพราะสั่งซื้อวัตถุดิบผิดไม่ตรงกับกระบวนการผลิตที่ต้องการ!
  • สั่งซื้อวัตถุดิบผิดชนิด ผิดประเภทที่ต้องการใช้ในการผลิต จนมีปริมาณมากเกินความต้องการในการผลิต! (เงินจม)
  • วันนี้ต้องผลิตสินค้าอะไรบ้าง?
  • ต้นทุนสูญเสียในการผลิตแต่ละครั้ง?
  • ต้นทุนการผลิตของสินค้า?
  • งบการเงินไม่ถูกต้อง และไม่ทันต่อการใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ!

ความสำเร็จกับการใช้ Business Plus MRP II

  • ทราบต้นทุนการผลิตที่แท้จริง
  • ลดต้นทุนจากการจัดเก็บวัตถุดิบมากเกินจำเป็น
  • ทราบกระบวนการผลิตขั้นตอนใดมีการสูญเสีย เพื่อหาสาเหตุ ดำเนินการแก้ไขป้องกันได้ถูกจุด
  • ช่วยประเมินจำนวนการผลิตที่เหมาะสม เพื่อไม่สูญเสียโอกาสการขาย

งานผลิตจบกระบวนการอย่างสมบูรณ์ภายใต้ Business Plus ERP และ Business Plus MRP II ในราคาคนไทย

Business Plus Material Requirement Planning (MRP II)

          เป็นโปรแกรมที่ครบถ้วนในกระบวนการผลิต ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายๆ ลดการสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเกี่ยวกับการคำนวณหาวัตถุดิบที่ต้องใช้ เพื่อที่จะนำไปผลิตสินค้าสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูป ให้ได้ครบตามจำนวนที่ต้องการจาก Sale Order หรือจากสูตรการผลิต/สูตรแปรรูป (BOM) เพื่อออกเอกสารใบสั่งผลิต ทั้งยังคำนวณอัตโนมัติว่าควรจะสั่งซื้อวัตถุดิบชนิดใดบ้างที่ไม่เพียงพอ และต้องส่งวัตถุดิบใดบ้างเข้าไปยังเครื่องจักรที่ทำหน้าที่ผลิต แก้ไขผลผลิตจริงที่ไม่ตรงตามสูตรการผลิต/สูตรแปรรูป, การสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการผลิต และต้นทุนการผลิตที่แท้จริง พร้อมเชื่อมโยงกับโปรแกรม Business Plus ERP โดยอัตโนมัติ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • ไม่จำกัดประเภทและชนิดของวัตถุดิบ (RM – Raw Material)
  • ไม่จำกัดประเภทและชนิดของสินค้ากึ่งสำเร็จรูป (SFG – Semi Finished Goods)
  • ไม่จำกัดประเภทและชนิดของสินค้าสำเร็จรูป (FG – Finished Goods)
  • สูตรการผลิต/สูตรแปรรูป สร้างได้หลายระดับ และไม่จำกัดเพื่อเป็นได้ทั้งสินค้าสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูป
  • รองรับการกำหนดสูตรการผลิต/สูตรแปรรูป ไม่จำกัดจำนวนขั้นตอนสูตรการผลิต และไม่จำกัดลำดับขั้นในการผลิต
  • FG ที่ได้แต่ละขั้นตอนการผลิต สามารถเรียกใช้ FG นั้นต่อไปในสูตรอื่นต่อได้ไม่จำกัด
  • FG ที่ได้แต่ละขั้นตอนการผลิต สามารถนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าสำเร็จรูปอื่น ได้โดยไม่จำกัดในขบวนการผลิต
  • เมื่อสินค้าสำเร็จรูป ผลิตมีจำนวนคงเหลือไม่เพียงพอต่อการจำหน่าย โปรแกรมจะรองรับการรับ Order สินค้านั้นลงในใบจองสินค้าและสร้างความสะดวกให้กระบวนการผลิตด้วยโปรแกรมจะทำการรวบรวมการจองสินค้า ไปทำการสร้างใบขอแปรรูปตามสินค้า หรือใบขอแปรรูปตามเอกสารที่ขาดสต็อคได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว
  • เมื่อได้ใบขอแปรรูป เพื่อทำเอกสารสั่งผลิต และถ้าวัตถุดิบไม่เพียงพอกับใบสั่งผลิต เช่น
    • สูตรการผลิต/สูตรแปรรูป สินค้าสำเร็จรูปรหัส FG6 ประกอบด้วย ขั้นตอนการผลิต คือ
      FG1 มี BOM คือ RM1 x 3, RM2 x 1, RM3 x 4
      FG2 มี BOM คือ RM4 x 1, RM5 x 1, RM1 x 1
      FG3 มี BOM คือ RM6 x 1, RM5 x 1, RM3 x 1, RM8 x 1
      FG4 มี BOM คือ FG2 x 3, FG1 x 1, RM7 x 1, RM2 x 5
      FG5 มี BOM คือ FG4 x 2, FG3 x 1, RM7 x 7
      FG6 มี BOM คือ FG5 x 2, FG4 x 8, RM9 x 1
    • จากตัวอย่างโปรแกรมสามารถแจ้งได้ทันทีว่า ถ้าต้องการผลิต FG6 10 ชิ้น ? – ต้องทำการผลิตทั้งหมดกี่ขั้นตอน
    • ระบบงานที่จัดการเกี่ยวกับการคำนวณหาวัตถุดิบ (RM)ที่ต้องการใช้ เพื่อที่จะนำไปผลิตสินค้าสำเร็จรูป หรือกึ่งสำเร็จรูป คำนวณแผนการใช้วัตถุดิบโดยพิจารณาจากยอดจองสินค้า และสูตรการผลิต/สูตรแปรรูป (BOM) โดยดูจากยอดวัตถุดิบคงเหลือยอดค้างรับและจุดต่ำสุด โดยสร้างใบขอซื้อโดยอัตโนมัติ เพื่อรอกระบวนการอนุมัติเอกสารตามระบบทางเดินเอกสารของแต่ละกิจการตลอด
    • รองรับลักษณะการผลิตทั้งแบบ Made to Stock และMade to Order
  • ฝ่ายบัญชีไม่ต้องกังวลเรื่องต้นทุนที่แท้จริง สามารถรับรู้ต้นทุนที่แท้จริง เช่น
    • รองรับกรณีมีของเสียในการผลิต ผลผลิตที่ได้ไม่เป็นไปตามสูตรการผลิตสามารถบันทึกจำนวนสินค้าสำเร็จรูปจริงที่ผลิตได้
    • กรณีวัตถุดิบที่ใช้ไม่เป็นไปตามสูตรการผลิต สามารถแก้ไขจำนวนที่ใช้จริงในแต่ละใบสั่งผลิตได้ ทำให้ทราบข้อมูลการใช้วัตถุดิบที่แท้จริงและต้นทุนผลิตจริงของแต่ละใบสั่งผลิต
    • ในกรณีโรงงานปิดต้นทุนสินค้าแบบ Periodic โปรแกรมมีรายงานสรุปสินค้าคงเหลือตามประเภทการลงบัญชีแสดงมูลค่าวัตถุดิบงานระหว่างและผลผลิตคงเหลือ ได้ในทุกสิ้นงวดบัญชี
  • เก็บสถิติเพื่อฝ่ายผลิตในการพัฒนาปรังปรุง เช่น
    • ระบบแสดง Yield สัดส่วนการสูญเสีย การสูญเปล่าจากการผลิตของเสีย เพื่อใช้เป็นข้อมูลวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการผลิตต่อไปได้
    • ทราบได้ว่าจุดผลิต เครื่องจักรใดที่ทำการผลิตไม่ได้ตามมาตรฐาน
    • รายงานประสิทธิภาพเครื่องจักร โปรแกรมจะทำการรวมเอกสารการแปรรูป ตามช่วงเวลาที่เลือกจากนั้น โดยโปรแกรมจะทำการเทียบกับสูตรแปรรูป ที่กำหนดว่า เป็นการให้ประสิทธิภาพ 100% เพื่อดูว่าการแปรรูปจริงให้ผลลัพท์ที่กี่ % การแสดงสามารถแสดงได้ทั้งแบบละเอียดและแบบสรุป
  • ให้ข้อมูลฝ่ายจัดซื้อเพื่อลดต้นทุน และลดการเสียโอกาส เช่น
    • ลดการสั่งซื้อวัตถุดิบในปริมาณมากเกินความต้องการในการผลิต
    • ลดการเสียโอกาส เพราะไม่ทราบว่า วัตถุดิบขาดสต็อคไม่เพียงพอต่อการผลิต
    • ลดต้นทุนจากการเก็บวัตถุดิบคงคลังมากเกินไป
    • สามารถวางแผนสั่งซื้อวัตถุดิบโดยดูจากรายงาน ประมาณการซึ่งแสดงจำนวนสินค้าคงเหลือปัจจุบัน จุดต่ำสุดในคลัง จำนวนค้างรับและจำนวนขอซื้อจากกระบวนการผลิตที่ต้องการใช้
  • ผู้บริหารสามารถทราบต้นทุนการผลิตที่แท้จริงได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องเพื่อใช้ในการตัดสินใจและการวิเคราะห์
  • รายงานสำหรับช่วยการบริหารการผลิตการสั่งซื้อ และประสิทธิภาพเครื่องจักร

ความสำเร็จกับการใช้ Business Plus MRP II

  • ผู้บริหารสามารถทราบต้นทุนการผลิตที่แท้จริงได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องเพื่อใช้ในการตัดสินใจและการวิเคราะห์ลดต้นทุนการผลิตสินค้า เนื่องจากมีการวางแผนการผลิตจัดการวัตถุดิบได้อย่างชาญฉลาดและคุ้มค่า ลดการจัดเก็บวัตถุดิบมากเกินความจำเป็น
  • รายงานปริมาณการสูญเสียในมุมจำนวนและมูลค่า จากกระบวนการผลิตขั้นตอนใด เพื่อหาสาเหตุ ดำเนินการแก้ไขป้องกันได้ถูกจุด
  • ช่วยพยากรณ์การขายจากสถิติที่ผ่านมา เป็นเครื่องมือสนับสนุนให้Business Plus MRP II ผลิตในปริมาณที่เหมาะสม และไม่สูญเสียโอกาสการขาย

           Business Plus Materail Requirement Planning (MRP II) โปรแกรมสำหรับวางแผนการผลิต จึงเหมาะกับผู้ผลิตทุกประเภทกิจการ โดยเฉพาะธุรกิจ SME ทั้งยังเพื่อความสะดวกในการจัดทำงานบัญชี โดยการเชื่อมโยงกับโปรแกรม Business Plus ERP โดยอัตโนมัติ ทำให้งานผลิตจบกระบวนการอย่างสมบูรณ์ภายใต้ Business Plus ERP และ BusinessPlus MRP II